กาแฟเกอิชาและการชง
ขอโปรไฟล์กาแฟ เกอิชา และวิธีการ brew กาแฟหน่อย
เกอิชา (Geisha) เป็นสายพันธุ์กาแฟที่มีชื่อเสียงอย่างมากในโลกของกาแฟสายพันธุ์พิเศษ (specialty coffee) ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและรสชาติที่ไม่เหมือนใคร โดยมากมาจากประเทศปานามาและประเทศในแถบละตินอเมริกา แต่ก็มีการปลูกในประเทศอื่นๆ ด้วย
โปรไฟล์กาแฟเกอิชา
-
รสชาติและอโรมา: เกอิชามักมีรสชาติที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน มีทั้งรสชาติผลไม้สด, ดอกไม้, และบางครั้งมีรสชาติเหมือนชา อโรมาสามารถครอบคลุมตั้งแต่ผลไม้สดจนถึงดอกไม้หอม โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกไม้สีขาว เช่น ดอกมะลิหรือดอกกุหลาบ
-
ความเป็นกรด: เกอิชามีความเป็นกรดที่เด่นชัด แต่เป็นกรดที่สมดุลและมีความสดชื่น คล้ายคลึงกับความเป็นกรดในผลไม้สด
-
ร่างกาย: มีความเบาและนุ่มนวล แต่ไม่เข้มข้นเหมือนกาแฟสายพันธุ์อื่นๆ
-
การประมวลผล: การประมวลผลที่นิยมสำหรับเกอิชา ได้แก่ การแห้งแบบธรรมชาติ (natural) และการแปรรูปแบบล้าง (washed) ซึ่งทั้งสองวิธีนี้มีผลต่อรสชาติสุดท้ายของกาแฟ
วิธีการชง (Brewing Method)
การชงกาแฟเกอิชาต้องทำอย่างระมัดระวังเพื่อเน้นย้ำคุณสมบัติเฉพาะของมัน:
-
การบด: ใช้การบดปานกลางถึงปานกลางละเอียด เพื่อช่วยให้สกัดรสชาติที่ซับซ้อนออกมาได้ดี
-
อุณหภูมิน้ำ: ใช้น้ำที่มีอุณหภูมิประมาณ 90-94 องศาเซลเซียส น้ำที่ร้อนเกินไปอาจทำให้กาแฟมีรสขม
-
**อัตราส่ว
นกาแฟต่อน้ำ**: ประมาณ 1:15 ถึง 1:17 (กาแฟ 1 ส่วนต่อน้ำ 15-17 ส่วน) ขึ้นอยู่กับการติดตั้งและรสนิยมส่วนบุคคล
- วิธีการชง: แนะนำให้ใช้วิธีการชงแบบหยด (pour-over) หรือแอโรเพรส (AeroPress) เพื่อควบคุมกระบวนการชงได้ดีกว่าและช่วยเน้นรสชาติที่ซับซ้อนของเกอิชา
การชงกาแฟเกอิชานั้นควรเน้นการสกัดแบบอ่อนโยน เพื่อรักษาความสมดุลของรสชาติและอโรมาที่เป็นเอกลักษณ์ของมันไว้ได้มากที่สุด ควรหลีกเลี่ยงการใช้วิธีการชงที่ให้รสชาติที่เข้มข้นมากเกินไป เพราะอาจทำให้รสชาติที่ละเอียดอ่อนของเกอิชาหายไปได้ และการเลือกใช้วิธีการชงที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถสัมผัสถึงความพิเศษของเกอิชาได้อย่างเต็มที่ครับ/ค่ะ!
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าตัวไหนเป็นเมล็ดกาแฟตัวแชมป์
การจำแนกเมล็ดกาแฟตัวแชมป์หรือเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพสูงสุดนั้นมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา และมักจะมีการตัดสินใจโดยผู้เชี่ยวชาญหรือในการประกวดกาแฟระดับนานาชาติ เช่น Cup of Excellence หรือการประกวดกาแฟอื่นๆ นี่คือปัจจัยหลักที่ใช้ในการประเมินคุณภาพของเมล็ดกาแฟ:
-
คะแนนความพิเศษ (Specialty Score): กาแฟสายพันธุ์พิเศษมักจะได้คะแนนจากการประเมินตามมาตรฐานของ Specialty Coffee Association (SCA) โดยกาแฟที่ได้คะแนน 80 หรือมากกว่าจะถือว่าเป็นกาแฟสายพันธุ์พิเศษ และกาแฟที่ได้คะแนนสูงกว่า 90 ถือว่าเป็นกาแฟที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม
-
ลักษณะทางกายภาพ: เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพสูงสุดมักจะไม่มีข้อบกพร่องทางกายภาพ เช่น รอยแตก, สีที่ไม่สม่ำเสมอ, หรือเมล็ดที่เสียหาย
-
รสชาติและอโรมา: กาแฟที่มีคุณภาพสูงจะมีรสชาติที่ซับซ้อนและลึกล้ำ อโรมาที่น่าดึงดูด และความสมดุลของรสชาติที่ดี เช่น ความเป็นกรด, ความหวาน, และความขม
-
แหล่งกำเนิดและการประมวลผล: กาแฟจากแหล่งกำเนิดที่มีชื่อเสียงและวิธีการประมวลผลที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพของกาแฟได้
-
ความสม่ำเสมอ: การผลิตกาแฟที่มีคุณภาพสูงอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ และมักจะถูกตรวจสอบในการประกวดกาแฟ
-
การตรวจสอบและการยืนยัน: การได้รับรางวัลหรือการยืนยันจากองค์กรที่มีชื่อเสียงในวงการกาแฟ อย่างเช่น Cup of Excellence, ถือเป็นหลัก
ฐานว่าเมล็ดกาแฟนั้นมีคุณภาพสูง
การเลือกเมล็ดกาแฟที่เป็นตัวแชมป์จึงไม่เพียงแต่ดูจากตัวเลขหรือคะแนนเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาจากคุณสมบัติทางกายภาพ, รสชาติ, และการยอมรับจากวงการกาแฟด้วยครับ/ค่ะ!